วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เเหนมเนือง
ส่วนผสม
เนื้อหมู (ส่วนสะโพก) หั่น 80 กรัม
มันหมูบด 20 กรัม
หอมแดง 20 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา


วิธีทำ
1. นำเนื้อหมูและมันหมูบด แช่เย็นประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นนำเนื้อหมูและมันหมูบดที่แช่เย็นแล้วมาตีด้วยเครื่องบดความเร็วสูงให้ละเอียด
2. ใส่หอมแดง เกลือ พริกไทยดำ ตีเข้าด้วยกันใช้ความเร็วสูงตีให้ละเอียด เวลา 30 วินาที
3. นำกลับไปแช่เย็นอีกครั้ง เวลาครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นนำออกมาปั้นเป็นลูกแล้วไปย่างไฟ ใช้ไฟอ่อนๆให้สุกทั่วถึงกัน

เครื่องเคียง
กระเทียมปอกเปลือก, กล้วยดิบ, มะเฟืองเปรี้ยว, พริกขี้หนู, แตงกวา, แผ่นแป้งแหนมเนือง

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
มันฝรั่งต้มบด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
เต้าเจี้ยวอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงบด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นำทุกอย่างมาต้มรวมกัน (ยกเว้นถั่วลิสงบด) ปรุงรสชาติให้มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ตามชอบ
2. ปล่อยให้เย็น นำมาปั่นอีกครั้ง ตักเสิร์ฟโรยด้วยถั่วลิสงบด


วิธีทำอาหารเมนูลาบเนื้อ
ส่วนผสม
1.ข้าวคั่ว
2.พริกแห้ง
3.เนื้อบด
4.มะนาว
5.หอมแดงซอย
6.ต้นหอมซอย
7.ผักชีซอย
8.ใบผักชีลาว
9.ใบโหระพาหรือใบสาระแหน่
10.น้ำปลา

ขั้นตอนการทำ
ขั้นแรกเลยทำข้าวคั่วก่อนโดยการนำข้าวสารไปคั่วในกะทะเปิดไฟอ่อนๆ เวลาคั่วถ้าไฟแรงข้าวจะไหม้ดำ คั่วจนขาวสารมีสีเหลืองหอมแล้วรีบเอาออกจากกะทะเพราะ ความร้อนยังมีอยู่ในข้าวข้าวจะเหลือตอไปอีกนิดพอเย็นลงแล้ว ก็นำไปตำในครกไม่ต้องให้ละเอียดเอาแค่หยาบๆ
ต่อไปก็ทำพริกป่น โดยการตั้งกะทะใช้ไฟอ่อนๆค่อยๆคั่ว กลิ่นจะของคั่วพริกจะแรงมากควรหาพัดรมระบายอากาศ หรือที่ดูดอากาศมาดูดหรือไล่ควันออกเพราะจะทำให้แสบตาแสบจมูก เวลาคั่วก็ใช้ไฟอ่อนๆค่อยๆคั่วไปเลื่อยๆ พอพริกเริ่มมีสีดำหรือเปลี่ยนสีนิดหน่อยด็ดับไฟตักพักไว้ให้เย็น เสร็จแล้วก็นำไปโขกในครกหินหรือนำไปปั่นให้ละเอียด
เสร็จแล้วก็มาทำลาบกันครับ ตั้งหม้อติดไฟใส่น้ำซุปลงไปไม่ต้องใส่เยอะนะครับเพราะเราจะเอาเนื้อลงไปคั่วให้เนื้อสุกเท่านั้น พอน้ำเริ่มร้อนแล้วก็ใส่เนื้อบดลงไปคลุกเคล้าจนสุก เมื่อสุกแล้วก็ใส่ข้าวคั่ว+พริกป่น+น้ำปลา+น้ำมะนาว+หอมแดงซอย+ต้นหอมซอย+ผักชีซอย+ใบผักชีลาวหั่นหยาบ+ใบโหระพาหรือใบสาระแหน่ คลุกเคล้าจนเข้ากัน ชิมรสชาติตามใจชอบเลยครับ เสร็จแล้วครับง่ายนิดเดียวเอง
หมายเหตุ การใส่เครื่องปรุงก็แล้วแต่คนชอบนะครับชอบทานรสชาติแบบไหนก็ใส่ไปเลยครับไม่มีกำหนด

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ขนมชั้น


ขนมชั้น
เป็นอาหารหวานของไทยที่มีมาแต่โบราณ นิยมนำมาใช้ในงานมงคลต่างๆ ในปัจจุบันเราจะหาขนมชั้นที่อร่อยๆ กินกันค่อนข้างยาก ขนมชั้นมีวิธีการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก และต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์พอสมควร โดยเฉพาะการหยอดแป้งแต่ละชั้น ปริมาณของแป้งต้องเท่ากัน จึงจะได้ชั้นที่สวยและสุกทั่วกัน ลักษณะที่ดีของขนมชั้น คือ ขนมทุกชั้นจะต้องสุกและลอกได้เป็นชั้นๆ หน้าเรียบเสมอ ผิวหน้ามันจากกะทิ เนื้อจะเหนียวนุ่ม ขนมชั้นจะใช้แป้งรวมกันถึง ๓ ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น แป้งมันและแป้งเท้ายายม่อมจะให้คุณสมบัติในการทำให้ขนมเหนียว นุ่ม ไม่กระด้าง

ขนมชิ้นเล็กๆ เพียง ๑ ชิ้น ให้พลังงานค่อนข้างมาก มีปริมาณของโปรตีนน้อย เพราะขนมชั้นมีส่วนผสมหลักคือ แป้ง กะทิ น้ำตาลเท่านั้น และเนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิในปริมาณมาก ทำให้มีไขมันชนิดอิ่มตัวและโคเลสเตอรอลสูง ถ้าบริโภคเป็นจำนวนมากจะทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน โคเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น จึงไม่แนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้กินขนมชั้น

นอกจากจะมีไขมันในปริมาณมากแล้ว ยังมีรสหวานค่อนข้างมาก เมื่อกินเข้าไปมากเกินความต้องการของร่างกาย พลังงานส่วนเกินที่ได้จะเปลี่ยนจากอาหาร ให้เป็นไขมัน แล้วนำไปสะสมบริเวณหน้าท้อง ต้นขา และเอว ทำให้รูปร่างไม่น่าดู และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่มากับโรคอ้วน

ส่วนผสม



แป้งเท้ายายม่อม ๑ ถ้วยตวง
แป้งมัน ๑ ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำกะทิ ๓ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๒ ถ้วยตวง
น้ำเปล่า ๑ ถ้วยตวง

วิธีทำ

๑. ร่อนแป้งทั้ง ๓ ชนิด รวมกัน

๒. นวดแป้งกับน้ำกะทิ โดยค่อยๆ เติมน้ำกะทิ นวดจนน้ำกะทิหมด ประมาณ ๒๕ นาที

๓. น้ำตาลทรายและน้ำเปล่า ผสมกับน้ำใบเตยตั้งไฟให้เดือด แล้วกรองพักไว้ให้เย็น ค่อยๆ เข้าส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากัน

๔. แบ่งส่วนผสมเป็น ๒ ส่วน

ส่วนที่ ๑ ไม่ต้องใส่สี

ส่วนที่ ๒ ใส่น้ำใบเตยคั้นข้นๆ

๕. นึ่งพิมพ์ขนมให้ร้อนจัด ตักแป้งหยอดทีละชั้น ใช้เวลานึ่งแต่ละชั้น ๗-๘ นาที แล้วจึงหยอดชั้นต่อไป ทำสลับกันจนหมด แต่ชั้นสุดท้ายต้องเป็นสี และควรเพิ่มสีให้เข้มขึ้นจะดูน่ากิน

๖. เมื่อสุกแล้วจึงยกลงจากรังถึง วางผึ่งให้เย็น ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม

เคล็ดลับ

แป้งที่ตักหยอดแต่ละชั้น ต้องหมั่นคนอย่าให้นอนก้น

วิธีการหยอดขนม ต้องหยอดให้แต่ละชั้นมีปริมาณแป้งที่เท่ากัน และต้องหยอดขณะที่ถาดนึ่งอยู่ในรังถึง และในขณะที่น้ำในรังถึงเดือดด้วย